
หญิงไต้หวันส่อถูก “ประหาร” หลังจุดธูปกันยุงเอาคืนคนรัก-ไฟลามคร่า 46 ชีวิต
วันที่ 21 ม.ค. เอเอฟพีและ สเตรส์ไทมส์ รายงานความคืบหน้าการดำเนินคดีเหตุ ไฟไหม้ ครั้งใหญ่ในรอบหลายสิบปีของไต้หวันเมื่อเดือนต.ค.2564 ว่า หญิงอายุ 51 ปี ทราบชื่อว่า ฮวง ผู้ต้องสงสัยว่าอยู่เบื้องหลังโศกนาฏกรรมที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 46 ราย และกว่า 40 คนได้รับบาดเจ็บ อาจได้รับโทษสูงสุดประหารชีวิต
สำนักงานอัยการไต้หวันเปิดเผยว่า ต้นตอของเพลิงไหม้มาจากนางฮวงซึ่งอยู่ในอาคารที่พักอาศัยและอาคารพาณิชย์สูง 13 ชั้นในเมืองเกาสง ทางตอนใต้ โดยนางฮวงจงใจจุดธูปไม้จันทร์หอมและปล่อยให้ขี้เถ้าร้อนตกลงบนโซฟาก่อนออกขากห้องพัก ด้วยหวังว่าจะเกิดไฟไหม้เพราะต้องการเอาคืนชายคนรักจากการนอกใจ
แถลงการณ์บางส่วนของสำนักงานอัยการระบุว่า “นางฮวงตั้งใจจุดไฟเพื่อให้เกิดเหตุและสร้างความอับอายต่อชายคนรัก แต่นั่นนำไปสู่หายนะครั้งใหญ่และทำให้เกิดความสูญเสียชีวิตของผู้บริสุทธิ์จำนวนมาก เธอไม่แสดงท่าทีสำนึกผิด หนำซ้ำยังมีทัศนคติที่เลวร้าย (ทีมอัยการ) เสนอให้ศาลพิพากษาโทษประหารชีวิตเพื่อเป็นตัวอย่าง”
สำนักงานอัยการระบุอีกว่า นางฮวงรับสารภาพว่าจุดธูปไม้จันทร์หอมเพื่อกันยุงจริง แต่ให้การที่ไม่สอดคล้องกับสิ่งที่ทำก่อนออกจากห้องในวันเกิดเหตุ เนื่องจากตอนแรกนางฮวงอ้างว่าทิ้งธูปเครื่องหอมลงถังขยะไปแล้ว แต่ต่อมากลับคำและบอกว่าจำไม่ได้ว่าทำอะไรลงไป

ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 2553 ซึ่งไต้หวันกลับมาบังคับใช้โทษประหารชีวิต มีนักโทษราว 35 คนประหารไปแล้ว และแม้รัฐบาลของ ประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน ให้คำมั่นว่าจะยุติโทษดังกล่าว
แต่หลังจากผู้นำหญิงรั้งเก้าอี้ประธานาธิบดีในปี 2559 ไต้หวันมีการประหารชีวิตนักโทษ 2 ราย และปัจจุบันมีผู้ต้องโทษประหาร 38 คน ในจำนวนนี้เป็นนักโทษหญิง 1 คน
ที่มา : ข่าวสด