
ล่าสุด วันที่ 7 ก.พ. 65 มีรายงานว่า ผู้ประกอบการได้นำป้ายที่เพิ่งปลดออกไปเพียงไม่กี่วันก่อนหน้านี้ กลับมาติดตั้งหน้าร้านอีกครั้งด้วยความคับแค้นใจ เช่น ที่ร้านกร-กันต์พันธุ์ไม้ ย่านศาลาบางปู ตำบลปากพูน อำเภอเมือง จ.นครศรีธรรมราช ได้ติดตั้งป้ายข้อความ “ขอร้องคุณโจร” บริเวณหน้าร้านเป็นที่สะดุดตาผู้พบเห็น หลังจากที่โจรได้เข้าก่อเหตุโจรกรรมต้นไม้ราคาแพงในร้านอีกครั้งเป็นครั้งที่ 10 โดยไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านี้ โดยหลังจากได้เข้าแจ้งความเป็นครั้งที่ 5 จากเหตุการณ์ทั้งหมด 10 ครั้ง ตำรวจงานสืบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้เข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุบันทึกภาพและรับว่าจะติดตามคนร้ายอย่างเร่งด่วน

ส่วนในที่เกิดเหตุพบว่าคนร้ายได้เข้าไปก่อเหตุโจรกรรมต้นไม้จำพวกไม้กระถาง ที่เป็นไม้มงคล บริเวณโรงเรือนเลี้ยงต้นไม้ก่อนส่งขายด้านหลังสุดของร้าน คนร้ายใช้วิธีการถอนต้นไม้และทิ้งดินทิ้งกระถางไว้เกลื่อนพื้น โดยรอบนี้เป็นรอบที่ 10 ของการก่อเหตุเฉพาะร้านนี้ มีต้นไม้ที่หายไปเฉพาะรอบนี้จำนวน 70 ต้นมูลค่าประมาณ 35,000 บาท ยังไม่นับร้านอื่นๆ ที่ถูกก่อเหตุอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน น่าเชื่อว่าคนร้ายก่อเหตุเป็นขบวนการมีผู้รับหน้าที่โจรกรรมและมีผู้รับซื้อ จากพฤติกรรมการเลือกต้นไม้ที่ขึ้นชื่อและมีราคา การถอนไปนั้นจะต้องมีโรงเรือนเพาะอนุบาลให้ฟื้นตัวก่อนส่งขาย

นายสุทธินันท์ ทองทรัพย์ เจ้าของร้าน กล่าวว่า กับปัญหาโจรไม้ประดับไม่รู้จะหาทางออกอย่างไรแล้ว ก็ต้องขึ้นป้ายขอร้องคุณโจรอีกครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 10 แล้วความเสียหายกว่า 3 แสนกว่า รอบนี้ต้องติดป้ายอีกครั้ง ไปขอแจ้งความครั้งนี้ แล้วเขาได้ได้ลงบันทึกประจำวันไว้ให้ บอกว่าจะต้องไปต่อกับ 3 ครั้งที่แล้วที่ไปแจ้ง ไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว คิดไม่ออกขอร้องตำรวจว่าช่วยหน่อย โดนไปเยอะเสียหายไปเยอะแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การก่อเหตุของคนร้ายกลายเป็นวิกฤตการณ์ของผู้ประกอบการย่านนี้ ทุกร้านได้พยายามติดตั้งวงจรปิดแต่คนร้ายได้เตรียมตัวมาดีใช้วิธีเลือกมุมที่กล้องจับภาพไม่ได้ หรือถ้าจับได้ก็ไม่ชัดเนื่องจากจะก่อเหตุกลางคืนและใช้ผ้าคลุมหน้า คลุมศีรษะเป็นไอ้โม่งตรวจสอบได้อย่างยากลำบาก ก่อนหน้านี้มีการจับกุมได้ 3 ราย เท่านั้นขณะที่เจ้าหน้าที่ได้ขอร้องให้ผู้ประกอบการปลดป้ายลงซึ่งผู้ประกอบการก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี แต่ยังคงมีเหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ความเสียหายทุกร้านรวมกันไม่น้อยกว่า 3 ล้านบาทแล้ว จนต้องขึ้นป้ายข้อความกลับไปอีกครั้ง