
นักสืบ 5G จับกุมลูกเจ้าของอู่ หลอกขายอะไหล่รถยนต์ ผ่านเฟซบุ๊ก ฟันเงินผู้เสียหายร่วมล้านบาท
เมื่อวันที่ 13 พ.ค. 2565 พ.ต.ต.สมพงษ์ เกตุระติ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. ร.ต.อ.บัวทอง สุขเกษม ร.ต.อ.ปฏิภาณ ไกรลาศฉิมพลี และร.ต.อ.ธนพล มโนษร กลุ่มนักสืบ 5G ร่วมกันจับกุมนายณฐพล สุดธิใจ อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจ.นครปฐม ที่ จ.129/2565 ลงวันที่ 6 พฤษภาคม 2565

สืบเนื่องจากตำรวจได้สืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายซึ่งใช้ชื่อเฟซบุ๊กชื่อบัญชี “Karin Thakhonyang” ซึ่งได้ก่อเหตุโพสต์หลอกลวงขายอะไหล่รถยนต์ตามกลุ่มเฟซบุ๊กต่าง ๆ ตามพฤติการณ์การก่อเหตุน่าจะมีผู้เสียหายหลายราย
ต่อมาทราบว่าคนร้ายคือนายณฐพล สุดธิใจ ได้หลบหนีไปพักอาศัยอยู่ที่อาคารแห่งหนึ่งในซอยอินทามาระ 47–49 พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ธีระชัย ชำนาญหมอ พ.ต.อ.สราวุธ คนใหญ่ รอง ผบก สส.บช.น. พ.ต.อ.ฤตวีร์ สุขเจริญ ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. จึงสั่งการให้วางแผนและเข้าทำการจับกุม
จากการสอบสวนนายณฐพล รับสารภาพว่าเริ่มก่อเหตุครั้งแรกเมื่อช่วงเดือนกันยายน 63 ครั้งนั้นเริ่มใช้เฟซบุ๊กชื่อบัญชี “Ant Nattapol” ซึ่งเป็นบัญชีเฟซบุ๊กส่วนตัว ทำการโพสต์หลอกขายอะไหล่รถยนต์ และล้อรถยนต์ ในมาร์เก็ตเพลซของแอพพลิเคชั่นเฟซบุ๊ก เนื่องจากพ่อเป็นเจ้าของอู่ซ่อมรถยนต์จึงพอมีความรู้เรื่องเครื่องยนต์อยู่บ้าง
เมื่อมีลูกค้ามาติดต่อซื้อสินค้าก็จะใช้บัญชีธนาคารชื่อตัวเองรับโอนเงิน โดยมีการส่งของให้กับลูกค้าบ้าง ไม่ส่งของให้บ้าง หรือเมื่อมีการทวงถามหรือมีการแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดี ก็จะคืนเงินให้ลูกค้า ที่ต้องทำเพราะช่วงนั้นติดเล่นพนันออนไลน์
ต่อมาเมื่อช่วงเดือนมิถุนายน 64 ผู้ต้องหาได้พัฒนาแผนประทุษกรรม โดยเริ่มหาซื้อบัญชีเฟซบุ๊กซึ่งมีประกาศขายในกลุ่มซื้อขายบัญชีเฟซบุ๊กทั่วไป นำมาเปลี่ยนชื่อเพื่อใช้หลอกลวง เนื่องจากเป็นเฟซบุ๊กเก่าที่มีประวัติการใช้งานมีความน่าเชื่อถือ จำนวน 4 บัญชี คือ ชื่อบัญชี “Aew Garage” ชื่อบัญชี “Hon Garage” ชื่อบัญชี “Note Thakhonyang” ชื่อบัญชี “Karin Thakhonyang” และได้สร้างบัญชีเฟซบุ๊กอีก 1 บัญชี เพื่อไว้สำหรับใช้เข้าหาซื้อบัญชีธนาคารต่าง ๆ เพื่อมารองรับเงินที่จะได้จากการหลอกผู้เสียหาย ชื่อบัญชี “Zeegame Apollo”
จากการตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่าที่ผ่านมานายณฐพล ได้หาซื้อบัญชีธนาคารเพื่อมารองรับเงินที่หลอกได้จากผู้เสียหายมาจากกลุ่มในเฟสบุ๊กประมาณ 10 กลุ่ม โดยซื้อในราคาบัญชีธนาคารละประมาณ 1,500–2,000 บาท มีการนัดรับสมุดบัญชี พร้อมบัตรเอทีเอ็ม และซิมโทรศัพท์มือถือซึ่งผูกกับแอพพลิเคชั่นธนาคารกับบัญชีต่าง ๆ กว่า 10 บัญชี
ที่ผ่านมามีรายได้จากการหลอกลวงผู้เสียหายเฉลี่ยประมาณเดือนละประมาณ 60,000–80,000 บาท ทำมาแล้วประมาณ 1 ปี มีรายได้รวมกว่า 9 แสนบาท เงินที่ได้จากการก่อเหตุผู้ต้องหาจะนำไปลงทุนเล่นการพนันบาคาร่าออนไลน์ โดยหวังว่าจะได้กำไรเป็นการต่อยอดเงินที่ได้จากการหลอกลวงผู้เสียหายให้เพิ่มขึ้น เบื้องต้นนำส่งตำรวจสภ.เมืองนครปฐม ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.นพศิลป์ เปิดเผยว่า นโยบายของพล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ให้นักสืบ 5G ลาดตระเวนออนไลน์สืบสวนติดตามคนร้ายที่เป็นภัยออนไลน์ สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนเป็นจำนวนมาก และยังก่อเหตุต่อเนื่อง จึงฝากเตือนไปยังประชาชนอย่าหลงเชื่อในการซื้อสินค้าทางออนไลน์ ต้องตรวจสอบความน่าเชื่อถือของผู้จำหน่าย เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของกลุ่มคนร้ายเหล่านี้
