กลางดึกเมื่อคืนนี้ (14 ส.ค.64) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายเกียรติคุณ ต้นยาง หรือ ทนายโป้ง ประธานชมรมทนายความจิตอาสา ว่าผู้ป่วยชายที่ติดเชื้อโควิด-19 และมีน้ำหนักตัวถึง 200 กิโลกรัม ได้เสียชีวิตที่บ้านพัก ต.ลำโพ อ.บางบัวทอง จ. นนทบุรี หลังรอผลตรวจ swab จากทางเจ้าหน้าที่เพื่อเข้าระบบการรักษาที่บ้าน (HI) ซึ่งในการรักษาต้องรอคิวนานหลายวัน แต่ผู้ป่วยมีอาการค่อนข้างหนัก ทำให้เสียชีวิตคาบ้านบริเวณเตียงนอนชั้นล่างของบ้าน
ต่อมาเวลาประมาณ 04.00 น. ของวันนี้ (15 ส.ค.64) ทางทนายโป้งได้ประสานพระครูนนทกิจ โกศล เจ้าอาวาสวัดอ่วมอ่องประชานฤมิตร และเจ้าคณะอำเภอไทรน้อย เพื่อจะนำร่างผู้เสียชีวิตไปทำการฌาปนกิจ โดยทางเจ้าหน้าที่วัดได้นำรถมารับร่างผู้เสียชีวิตไปฌาปนกิจศพที่วัดฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น โดยทางพระครูนนทกิจ โกศล เจ้าอาวาสวัดอ่วมอ่อง ได้สวมชุด พีพีอี (PPE) นำร่างผู้เสียชีวิตไปฌาปนกิจศพด้วยตัวเอง เจ้าหน้าที่แบกโลงศพขึ้นเมรุด้วยความยากลำบาก เนื่องจากผู้เสียชีวิตมีน้ำหนักตัวมากถึง 200 กิโลกรัม
ด้านนางสาวสุณี อายุ 51 ปี แม่ของผู้เสียชีวิตกล่าวทั้งน้ำตาว่า ก่อนที่ลูกจะเสียชีวิต ลูกชายมีอาการหายใจไม่ออก บอกกับตนว่าไม่ไหวแล้ว ตนรู้สึกเสียใจมาก ไม่เคยคิดว่าจะมาเกิดกับตัวเองว่าจะต้องสูญเสียลูกไป ลูกชายเป็นคนแข็งแรงไม่เคยเป็นอะไร ไม่สบายนิดหน่อยกินยาก็หาย ไม่มีโรคประจำตัว แค่อ้วนแต่แข็งแรง ตนไม่แน่ใจว่าลูกของไปติดเชื้อโควิด-19 มาจากไหน เพราะเขาบอกแค่ไปโดนฝนและออกไปซื้อของข้างนอก พอเข้ามาบ้านก็บอกว่ารู้สึกคั่นเนื้อคั่นตัว เริ่มไอ เริ่มมีไข้ตั้งแต่ต้นเดือน พอวันที่ 6 ส.ค. 2564 ไปคลินิกย่านพงษ์เพชรที่เคยไปตรวจและมีประวัติอยู่ที่นั่น ซึ่งไปฉีดยากลับมาไม่ดีขึ้น จึงไปซื้อชุดตรวจมาตรวจพบว่าลูกชายติดเชื้อ
“ตนอยากบอกว่าขอให้ลูกของตนเป็นศพสุดท้าย ขอให้เวลามีอะไรให้ช่วยเหลือให้ทันท่วงที คิดว่าลูกชายการรักษานานเกินไป เวลามาหาก็นำแค่ปรอทวัดไข้กับเครื่องตรวจออกซิเจนมาให้ ยาอะไรก็ไม่มีมาให้ซักอย่าง ตอนนี้ที่รออยู่คือรอผลการ Swab ครั้งที่ 2 จะต้องรอไปเข้าระบบถึงจะดำเนินการนำตัวน้องไปรักษาที่โรงพยาบาลได้ แม่คิดว่าระบบมันนานเกินไปและไม่มีอะไรที่ดีขึ้น ไม่ได้มาช่วยอะไร ล่าช้ามาก” แม่ผู้เสียชีวิต กล่าวทั้งน้ำตา
ทนายโป้ง กล่าวว่า เคสของผู้เสียชีวิตรายนี้ หากมีหน่วยงานราชการที่มีอำนาจอย่างแท้จริงลงมาดูแล คิดว่าน้องคงไม่มีวันนี้น้องคงมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงต่อไป ฝากผู้หลักผู้ใหญ่ขอให้ศพของน้องเป็นศพสุดท้าย ในความล่าช้าของการเข้าสู่ระบบของการรักษาโรคโควิดในครั้งนี้
พระครูนนทกิจ โกศล เจ้าอาวาสวัดอ่วมอ่องประชานฤมิตร กล่าวว่า เมื่อเกิดปัญหาแบบนี้เราต้องช่วยกัน ไม่ว่าเป็นพระเป็นโยมถ้ามีโอกาสได้ช่วยก็จะช่วยเพื่อสังคมของเราที่จะได้น่าอยู่ขึ้น และมีความสามัคคีกันเป็นเรื่องสำคัญ ตนรับแจ้งตั้งแต่เที่ยงคืน ศพจนถึงตอนตี 4 ศพ ซึ่งอาตมารอได้เพราะผู้ที่เดือดร้อนผู้ที่เสียใจคือแม่ คือญาติที่เหลือที่อยู่ที่บ้าน ทุกคนไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้แต่ถ้าเกิดเรื่องแบบนี้แล้วเราก็ต้องช่วยเขาแบ่งเบาภาระให้เขาได้สบายใจ พระไม่ทิ้งโยมก็คือไม่ทิ้ง ยังไงก็ช่วยกัน ถ้ามีศพมาทางวัดก็จะเผาให้
