“ตงตง กฤษกร” เผยสถานะ “สาลี่” เรียกแฟนได้ ลั่นไม่เปย์แค่อยากให้! รับเข้าทางแม่ ทุ่มเต็มร้อยกับรักครั้งนี้
ก่อนนี้ก็มีข่าวลือว่าทั้งคู่กำลังแอบคบกัน จนล่าสุด ตงตง เดอะสตาร์ ก็ได้ออกมาเปิดตัวรักครั้งใหม่กับ สาลี่ เดอะสตาร์ หรือ สาลี่ โสมวิมาลา ณ อุบล ก็ดูเหมือนว่าความรักของทั้งคู่จะลงตัวไปหมดทั้งชีวิตรัก และฝั่งครอบครัวทั้งสองฝ่าย อย่างในวันเกิดของแม่แฟน ตงตงซื้อกระเป๋าแบรนด์เนม และตั้งใจเขียนการ์ดให้เป็นของขวัญ
ล่าสุดวันที่ 10 มิ.ย. ตงตง กฤษกร หรือ ตงตง เดอะสตาร์ ก็ได้ออกมาเปิดใจกับสื่อมวลชนถึงเรื่องดังกล่าว พร้อมยอมรับว่าเข้าทางแม่และทุ่มเต็มร้อยกับความรักครั้งนี้
ได้คุยเรื่องสถานะไปบ้างหรือยัง?
“จริงๆ คือเราก็มีได้คุยกัน แต่ว่า ผมคุยกับน้องอยู่ว่าไม่อยากให้รีบร้อนอะไร เราอยู่ในสายตาพ่อแม่แบบนี้โอเคแล้ว แล้วเราศึกษาคุยกันไปแบบนี้เรื่อยๆ ณ วันไหนที่มันพร้อมจริงๆ เราก็ค่อยอันนี้กับมัน”
แต่ถ้าเกิดจะเรียกแฟนก็ไม่ติด?
“จริงๆ ผมก็ไม่ติดครับ ทุกคนเห็นแบบไหน ก็เรียกได้ครับผม (หัวเราะ)”
ล่าสุดซื้อแบรนด์เนมให้แม่แฟน?
“แต่จริงๆ ผมไม่ได้เรียกว่าเปย์หรอก คือความตั้งใจหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นด้วยวันเกิด งานสำคัญใดๆ เรารู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่เราควรให้ เพราะว่าสิ่งที่เขาให้ มันเหมือนเราให้เขา แล้วเขาให้เรากลับมา ให้กันไปกันมา ผมว่าการให้มันสำคัญมากๆ เลย”
เขาว่าอย่างไรบ้างหลังเราให้ของขวัญวันเกิดชิ้นนี้ไป?
“หลักๆ เขาดีใจครับ และเขาไม่ได้หวังอะไรเลยตอบแทน แล้วไม่ได้หวังอะไรในเทศกาลต่างๆ เลยครับ ขอแค่ให้ทุกอย่างมันราบรื่นด้วยดี และขอให้ในอนาคตมันเป็นสิ่งที่ดีเท่านั้นเอง”
หลายคนเห็นข้อความแล้วรู้สึกว่าเป็นข้อความที่จริงใจ ข้อความนั้นเป็นอย่างไร?
“จริงๆ ข้อความนั้นผมเขียนก่อนที่จะมอบของขวัญให้ เป็นการ์ดอวยพร ตัวคุณแม่ของน้อง เขาชอบเก็บอะไรที่เป็นความทรงจำ เขาเก็บมาตลอดไม่ว่าจะตอนเด็กๆ เขาไม่เคยที่จะไม่เก็บของเลย เพราะฉะนั้นสิ่งแบบนี้ มันเลยเป็นความตั้งใจของผมและตัวน้องด้วย เราเลยได้มีโอกาสได้เขียนกัน และมอบให้น้องครับเพื่อให้คุณแม่เก็บไว้”
กระเป๋าใบนี้คุณแม่อยากได้ หรือเราคิดว่าอยากมอบให้?
“จริงๆ ผมกับน้องเราไปเลือกด้วยกันแล้ว เราก็จะดูการแต่งกาย การใช้ชีวิตของแม่ของน้องด้วยว่าเขาเป็นแบบไหน เราเลือกในสิ่งที่เหมาะสมกับคุณแม่เขาด้วย”
อันนี้เป็นของขวัญที่ให้ร่วมกันกับสาลี่ หรือว่าเป็นของเราคนเดียว?
“จริงๆ เป็นร่วมด้วยครับ”
ถือว่าเป็นการเข้าทางคุณแม่ 100% เลยใช่ไหม?
“ใช่ ยังไงมันก็ต้องเต็มที่ครับ ไม่ว่าด้วยอะไรมันต้องเต็มที่ ในสำหรับความรักของผมตั้งใจมากๆ ไม่ว่าจะเป็นด้วยเรื่องงาน หรือว่าความรัก เราก็แยกออกมาทั้งสองทางแล้วว่างานคือส่วนงานความรักก็ส่วนความรัก แต่ไม่ใช่ว่าทำให้งานนั้นดรอปลง เพราะฉะนั้นเต็มที่ได้มันก็ต้องเต็มที่ทั้งสองทาง”
แล้วคุณแม่มีพูดคุยพาร์ทกฎเกณฑ์อะไรกับเราบ้างไหม?
“แม่ก็บอกว่าให้อยู่ในสายตาของคุณแม่ด้วยครับ มันจะโอเค แล้วผมว่ามันเป็นสิ่งที่ดีเพราะว่า ผมไม่ค่อยได้อยู่กับแม่ พอแบบว่าคุณแม่ของน้องไปด้วยทุกที่ มีโอกาสเหมือนไปเที่ยวกับแม่ของเราด้วย ผมเลยมีแพลนว่าเดี๋ยวจะชวนแม่ของผมไปด้วย”
ข้อตกลงอย่างอื่นไม่ได้มีถึงขั้นมีกฎอะไรห้ามปฏิเสธอะไรแบบนี้ใช่ไหม?
“จริงๆ ไม่มีครับ ขอแค่ให้อยู่ในสายตาของพ่อแม่ แล้วทำอะไรให้อยู่ในร่องในรอยประมาณนี้ครับ”
ล่าสุดเรามีข่าวอะไรแบบนี้ คุณแม่เขาได้เอ๊ะบ้างหรือไม่?
“จริงๆ ผมว่าคุณแม่เขาคงมีเอ๊ะบ้าง แต่ว่าเราคุยกันตลอดอะไรอย่างนี้ครับ เพราะว่าเราเจอกัน เราก็มีอัพเดทกันมาตลอดว่าเป็นอย่างไร เป็นแบบไหนอะไรอย่างนี้ เราได้มีโอกาสเล่า ได้แชร์กันและกัน ผมว่ามันก็เป็นสิ่งที่ดีแล้วก็ทำให้ข่าวไม่ดี หรือข่าวที่พูดไปโดยไม่มีมูลเหตุ มันได้ปรับความเข้าใจกันในทุกๆ ครั้ง”
อย่างข่าวเรื่องไปกินข้าว มันมีรูป มีอะไรด้วยต้องอธิบายเยอะไหมกับคุณแม่?
“จริงๆ ไม่ได้อธิบายเยอะเลยครับ จริงๆ คุณแม่ก็รู้จักอย่างพี่เมเปิ้ลที่เป็นข่าว พี่เมเปิ้ลเป็นพี่ที่ผมสนิทมากๆ อยู่แล้ว แล้วก็เคยเจอคุณแม่และเคยเจอน้องแล้วด้วย เพราะฉะนั้นผมก็รู้สึกว่าผมไม่ได้อธิบายอะไร และแม่ของน้องก็ไม่ได้ต้องการคำอธิบายใดๆ (แสดงว่าตอนนี้แฮปปี้มากๆ?) แฮปปี้มากๆ ครับ (ยิ้ม)”
หลังจากนี้ต้องระวังอะไรเป็นพิเศษไหม?
“ผมว่ามันไม่เกี่ยว ถ้าจะให้ผมขยับตัวยากเพราะว่ามันมีข่าวที่มันไม่ดี ผมว่ามันคงไม่ใช่ เพราะสำหรับผม รู้สึกว่าผมก็ใช้ชีวิตแบบนี้ แล้วก็ผมไม่ได้ทำอะไรผิด ผมก็จะใช้ชีวิตของผมไป เพราะไม่ได้ทำอะไรที่มันไม่ดี เพราะฉะนั้นการที่ข่าวไปเขียนอะไรที่มันไม่ดี ผมก็คิดว่ามันก็คงไม่มีผลอะไรกับผม และผมก็คงไม่ต้องไปแคร์ ว่าผมจะต้องไประมัดระวังตัวขนาดไหน”
