พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (โฆษก ตร.) กล่าวถึงการระบาดของสื่อลามกอนาจารว่า ปัจจุบันมีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และมีเด็กที่ต้องตกเป็นเหยื่อ มีการล่อลวงโดยใช้ภาพโปรไฟล์หนุ่มหล่อหรือสาวสวย หรือจูงใจ ด้วยวิธีการอื่นใด เพื่อให้เด็กถ่ายภาพ หรือคลิปอนาจาร แล้วนำมาแบล็กเมล์ข่มขู่ในภายหลัง หรือคนร้ายอาจนำไปขายในเว็บไซต์ อนาจารเด็ก หรือกลุ่มลับต่าง ๆ ซึ่งการ “ผลิต” สื่อลามกอนาจารเด็ก ทั้งเพื่อการค้า หรือการจ่ายแจก แสดงอวดแก่ประชาชน เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายมีอัตราโทษจำคุกสูงสุดถึง 10 ปี ในส่วนของผู้ที่มีสื่อลามกอนาจารเด็ก ไว้ใน “ครอบครอง” หรือ “ส่งต่อ” ให้กับผู้อื่นก็มีความผิดตามกฎหมายเช่นกัน มีอัตราโทษจำคุกสูงสุดถึง 7 ปี
ทั้งนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ยังได้สั่งการกำชับไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วประเทศ หากมีผู้เสียหายมาแจ้งความร้องทุกข์ ให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มงวด เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดอย่างเด็ดขาด
โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีการป้องกันปราบปราม สืบสวน จับกุม บังคับใช้กฎหมายในเรื่องนี้ อย่างต่อเนื่อง จึงอยากฝากเตือนบรรดาผู้มีรสนิยมชื่นชอบ สื่อลามกเด็ก ให้หยุดพฤติกรรมดังกล่าว ซึ่งการกระทำในลักษณะนี้ เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและมีอัตราโทษหนักตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 287/1 ผู้ใดครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเอง หรือผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
รวมทั้งมีความผิดตาม มาตรา 287/2 เพื่อความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้า เพื่อการแจกจ่ายหรือเพื่อการแสดงอวดแก่ประชาชน ทำ ผลิต มีไว้ นำเข้าหรือยังให้นำเข้าในราชอาณาจักร ส่งออกหรือยังให้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พาไปหรือยังให้พาไปหรือทำให้แพร่หลายโดยประการใด ๆ ซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็ก ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปี ถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่ 60,000 บาท ถึง 200,000 บาท
