
จากกรณีที่มีคนร้าย สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีขาว นุ่งกางเกงยีนส์ขายาว ใช้ปืนขนาด 9 มม.บุกเดี่ยว“ชิงทอง”ในร้านทองกีรติ ภายในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพลาซ่า สาขาขอนแก่น โดยคนร้ายได้สร้อยทองรูปพรรณจำนวน 11 เส้น น้ำหนักเส้นละ 3 บาท รวม 33 บาท ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าในเรื่องนี้เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 21 พ.ย. 2564 พล.ต.ต.ณัฐนนท์ ประชุม ผบก.สส.ภ.4 พร้อมด้วย พล.ต.ต.นพเก้า โสมนัส ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น และ พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน รวม บก.สส.ภ.4 ,ชุดสืบสวนภ.จว.ขอนแก่นและสืบสวนสภ.เมืองขอนแก่น เพื่อติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุ“ชิงทอง”ในร้านทองดังกล่าว
พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวว่า หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจและตำรวจพิสูจน์หลักฐาน 4 ได้เข้าตรวจสอบในร้านทอง พบว่าคนร้ายทำถุงหิ้วพลาสติกลักษณะสี่เหลี่ยม ข้างนอกขาว ด้านในเป็นลาย ตกอยู่ที่พื้นในร้านทอง เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน 4 จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานและนำไปตรวจหาดีเอ็นเอของคนร้าย ขณะที่จากการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิด ภายในห้างและระบบรักษาความปลอดภัยของห้างฯนั้นในเบื้องต้นทราบว่ามี รปภ.รักษาความปลอดภัยในชั้นที่มีร้านทองและธนาคารรวม 4 คน
ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวต่ออีกว่า ในส่วนของผู้ต้องสงสัยเป็นชาย 1 รายที่ตำรวจควบคุมตัวได้หลังเกิดเหตุนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน เพราะต้องรวบรวมพยาน หลักฐาน ที่เกี่ยวข้องให้ได้มากที่สุดจึงจะจับกุมได้ โดยจะทำการสืบสวนสอบสวนหาตัวคนร้ายจากกลุ่มคนที่เป็นพนักงานในห้างฯที่ลาออกไป และกลุ่มคนที่เข้ามาทำการก่อสร้างภายในห้างฯ
ขณะที่ พล.ต.ต.นพเก้า โสมนัส ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น กล่าวว่า จาก การประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนร่วม บก.สส.ภ.4, สืบสวน ภ.จว.ขอนแก่นและสืบสวนสภ.เมืองขอนแก่น เช้าวันนี้ เพื่อวางแนวทางในการสืบสวนหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ ซึ่งในเบื้องต้นยังเชื่อว่าคนร้ายลงมือก่อเหตุเพียงคนเดียว ยังไม่พบบุคคลที่เกี่ยวข้อง ส่วนทองรูปพรรณที่คนร้ายได้ไปนั้น เป็นสร้อยคอทองคำน้ำหนักเส้นละ 3 บาท รวม 11 เส้น มีมูลค่าเกือบ 1 ล้านบาท และคนร้ายทำตกไว้ที่ลานข้าวเหนียว 1 บาท ซึ่งขณะนี้การสืบสวนคืบหน้าไปมาก แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดต่างๆที่เกี่ยวข้องได้ อีกทั้งได้ตั้งรางวัลนำจับให้กับคนแจ้งเบาะแสคนร้ายไปสู่การจับกุม จำนวน 50,000 บาท และหากประชาชนรายใดพบเบาะแสคนร้ายสามารถแจ้งมาได้ที่เบอร์ 043-221162,043-226557 และเบอร์ 089-620-7739 ตลอด 24 ชั่วโมง