
หญิงสาวญี่ปุ่น ใช้เงินวันละ 50 เก็บเงินซื้อบ้าน 3 หลัง ในเวลา16ปี!!
นับว่าเป็นเรื่องที่น่าทึ่งและภูมิใจแทนเป็นอย่างมาก! เมื่อหญิงสาวญี่ปุ่นผู้นี้ได้เก็บเงินซื้อบ้าน3หลังในเวลาเพียง 16 ปี แม้ว่าการอดออมและประหยัดในประเทศญี่ปุ่นจะเป็นเรื่องค่อนข้างยาก เพราประเทศญี่ปุ่นนั้นมีค่าครองชีพสูงติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลกโดยเฉพาะใน กรุงโตเกียว จากการสำรวจพบว่า ค่าอาหารของชาวโตเกียวตกเฉลี่ยอย่างน้อยวันละ 900 เยน หรือประมาณ 260 บาท แต่ถึงค่าครองชีพจะสูงแต่ระบบเศรษฐกิจก็ดีมากเช่นกัน
เมื่อหญิงสาวจากไซตามะคนหนึ่ง เธอได้มาออกรายการโทรทัศน์ครั้งแรกขณะอายุ 27 ปี และได้เปิดเผยถึงเคล็ดลับการเก็บออมเงินจนสามารถซ้อบ้านหลังแรกได้ในวัยเพียง 27 ปีเท่านั้น!
เธอนั้นได้บอกถึงทริคประหยัดเงินโดยการจะเลือกซื้ออาหารแบบเรียบง่าย และจะซื้อเมื่อมีการลดราคาแบบกระหน่ำ อาทิ อาหารมื้อเช้าของเธอก็คือขนมปังกับเนย ในมื้อกลางวันจะเป็นปลาแซลม่อนย่างที่เธอทำมาจากบ้าน ส่วนมื้อเย็นก็จะเป็นอูด้งซองสำเร็จรูปและเติมผักนิดหน่อยที่ได้มาจากซูเปอร์มาร์เก็ต
และในแต่ละวันจะหมดเงินไปกับค่าอาหารเฉลี่ยเพียงวันละ 153 เยน หรือประมาณ 45 บาท เป็นเวลาต่อเนื่องกว่า 16 ปี โดยค่าใช้จ่ายในส่วนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า เธอก็จะนำของที่คนอื่นไม่ใส่มาใส่ หรือเฟอร์นิเจอร์ก็จะหยินเอามาจากที่คนเขาทิ้งกัน
และจากการประหยัดและอดออมเป็นอย่างหนัก เธอก็สามารถทำความฝันเป็นจริงได้ด้วยการซื้อบ้านหลังแรกในราคา 10 ล้านเยน หรือประมาณ 2.9 ล้านบาท ด้วยวัยเพียง 27 ปี
จากหน้าที่การงานของเธอที่มีรายได้กว่า 256,000 เยน หรือประมาณ 74,000 บาท เธอบอกว่ายังต้องการซื้อบ้านหลังอื่นเพิ่มเติมอีก และเธอใช้เวลาเพียง 2 ปี ในวัย 29 ปี บ้านหลังที่ 2 ของเธอก็ตามมาในราคา 18 ล้านเยน หรือประมาณ 5.2 ล้านบาท และหลังที่ 3 ราคากว่า 27 ล้านเยน หรือประมาณ 7.8 ล้านบาท ในวัย 34 ปี
และในปัจจุบันเธอก็เปรียบเสมือนเสือนอนกินและเกษียณตัวเองเรียบร้อย โดนรายรับส่วนหนึ่งได้มากจากการเก็บค่าเช่าบ้านตั้งแต่เธอได้บ้านหลังแรก เป็นจำนวนกว่า 30,000 เยน หรือประมาณ 8,800 บาท ในทุกๆเดือน และตอนนี้เธอยังแปลงบ้านพักส่วนหนึ่งให้เป็นคาเฟ่แมวจรจัด ซึ่งถือว่าเป็นความฝันอย่างหนึ่งของเธออีกด้วย
ถือได้ว่าเธอเป็นนักประหยัดอดออมที่มีวินัยเป็นอย่างมาก ซึ่งการที่จะทำแบบนี้ได้นั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริง ทั้งต้องอดทนและหักห้ามใจเป็นเวลานาน ซึ่งหญิงสาวผู้นี้ทำได้ดีมากๆเลยทีเดียว
ขอบคุณ Tnews